กว่าจะเป็นพระเอก! จางเยี่ยนหมิง เผย "วันที่มืดมนที่สุด" ในชีวิตนักแสดง เหตุเพราะยาถ่าย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความอับอายสุดขีดในชีวิตการทำงาน

ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเป็นนักแสดงที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟและสายตานับร้อยคู่ในกองถ่าย เรื่องราวที่กำลังจะเล่านี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่นักแสดงหนุ่มชาวไต้หวันอย่าง จางเยี่ยนหมิง หรือ Enson Chang วัย 43 ปี ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่กลายเป็น “วันที่มืดมนที่สุด” ในชีวิตการทำงานของเขา


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำซีรีส์เรื่องหนึ่ง

ซึ่งก่อนหน้าวันถ่ายทำ จางเยี่ยนหมิงจำเป็นต้องเตรียมตัวสำหรับการส่องกล้องทางลำไส้ ทำให้เขาต้องรับประทานยาถ่ายล่วงหน้าถึงสองวัน แต่ด้วยตารางงานที่รัดตัวในฐานะนักแสดงนำ ทำให้เขาไม่สามารถขอหยุดพักได้และต้องฝืนทำงานต่อไปโดยที่ร่างกายยังอยู่ในสภาวะไม่พร้อมอย่างยิ่ง ซึ่งในขณะที่กำลังเข้าฉากสำคัญกับนางเอกของเรื่อง ร่างกายที่ควบคุมไม่ได้ก็ได้สร้างความอับอายอย่างแสนสาหัส เมื่อจู่ ๆ เขาก็ “กลั้นไม่อยู่” จนเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นกลางกองถ่าย สร้างความตกใจให้กับทีมงานและเพื่อนนักแสดงอย่าง หลี่ซิน ที่ถึงกับอุทานออกมาว่า "นี่มันไม่ใช่น้ำแล้วนะ! มันคือหายนะชัด ๆ" กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ ส่งผลให้บรรยากาศในการถ่ายทำหยุดชะงักลงชั่วขณะ


ทันทีที่ผู้กำกับสั่งพักเบรก

จางเยี่ยนหมิงรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อตรวจสอบความเสียหายและพบว่าชุดที่ใส่ไม่สามารถใช้งานต่อได้ เขาจำใจต้องถอดกางเกงในทิ้งและกลับไปถ่ายทำต่อด้วยความรู้สึกอับอายอย่างที่สุด เรื่องราวสุดป่วนนี้ถูกเปิดเผยในรายการวาไรตี้ 小姐不熙娣 ทางช่อง EBC Variety ของไต้หวัน ซึ่งได้เชิญเหล่าดารามาพูดคุยถึงประสบการณ์ความน่าอับอายในกองถ่าย และเรื่องของจางเยี่ยนหมิงก็สร้างความตกตะลึงให้กับแขกรับเชิญคนอื่น ๆ จนทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือหายนะของจริง


เรื่องราวความอับอายที่เกิดขึ้นกับนักแสดงระหว่างการทำงานไม่ใช่เรื่องใหม่

การที่นักแสดงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ระหว่างการถ่ายทำนั้นเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ตั้งแต่การลืมบท การสะดุดล้ม ไปจนถึงการหัวเราะค้างในฉากดราม่า อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ของจางเยี่ยนหมิงได้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและหัวใจของนักแสดงที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่สร้างความอับอายอย่างแสนสาหัสแต่ก็ยังคงทำงานอย่างมืออาชีพต่อไป